Italian Thread lift

Italian Thread lift

       ก่อนจะไปรู้จักกับการร้อยไหมด้วยไหมอิตาลี หรือที่เรียกอีกอย่างว่า การร้อยไหม Italian Thread Lift ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ล่าสุดเพื่อการร้อยไหมยกกระชับผิว เรามารู้จักที่มาที่ไปของการร้อยไหม ในแบบฉบับย่อๆ ก่อนนะคะ
       การร้อยไหม คือ เทคนิคที่นำมาใช้ช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดู เรียว ด้วยไหมละลายโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี หลักการของเทคนิคนี้ คือ การใช้ไหมเส้นเล็กจำนวนมากมาร้อยเป็นเครือข่าย บริเวณใต้ผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไปจะถูกกระตุ้น ให้เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ มีผลทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่ สร้างเส้นใยคอลลาเจน ให้สร้างคอลลาเจนใหม่มาพันรอบแนวเส้นไหม มีผลให้เกิดการดึงรั้งผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงและกระชับ พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้นด้วย

       ไหมอิตาลี แบรนด์ Definisse ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองจาก อย. (องค์การอาหารและยา) ของไทยแล้ว ว่าเป็นผลิตภัณฑ์เส้นไหมสำหรับการยกกระชับผิวโดยตรง แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในไทยตอนนี้ นำเข้าจากประเทศอิตาลี มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย สลายได้หมด 100% เส้นไหมถูกออกแบบ มาเป็นพิเศษ ผสมผสานกันระหว่างวัสดุ PLLA และ PCL ทำให้มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนได้ดีและให้ผลลัพธ์ในระยะเวลาที่ยาวนานกว่าไหมที่มีมาก่อนหน้า

คุณสมบัติที่น่าสนใจของไหมอิตาลี

  1. เส้นไหมผลิตจากวัสดุ Poly(L-Latide-co-Caprolactone) เรียกสั้น ๆ ว่า P(LA-CL) มีลักษณะเป็นเงี่ยงแบบหันเข้าหากัน (Bidirectional Convergent Barb) ผสมผสานระหว่างวัสดุ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) และ PCL (Polycaprolactone) เป็นการดึงจุดเด่นจากทั้ง 2 วัสดุ ในอัตราส่วนเฉพาะมาผลิตเป็นเส้นไหม ซึ่ง PLLA มีจุดเด่นในเรื่องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่วน PCL จะเด่นเรื่องการคงอยู่ของเส้นไหมได้นานสูงสุดในกลุ่มไหมละลาย คือ 18-24 เดือน
  2. ไหมอิตาลีเป็นแบบ Double Needle Technique มีเข็มนำในแต่ละด้านของปลายไหม ปลายเข็มจะคมและลื่นเป็นพิเศษ ทำให้สามารถร้อยในทิศทางที่ต้องการได้สะดวกยิ่งขึ้น ช่วยลดอาการ บวมแดงหลังจากการร้อยไหมได้
  3. การร้อยไหมด้วยไหมอิตาลี จะใช้ไหมเพียงข้างละ 1 เส้น เทียบเท่ากับการใช้ไหม ก้างปลามากกว่า 10 เส้น ในไหมปกติ เพราะไหมอิตาลีถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นเงี่ยงหันเข้าหากัน เมื่อถูกร้อยเข้าใต้ผิวหนังจะสามารถยึดติดกับผิวได้ดี ส่งผลต่อการยกกระชับผิว การร้อยไหมด้วย ไหมอิตาลีจะเห็นผลลัพธ์การยกกระชับผิวทันทีหลังทำ ช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น และยังส่งผล ในการยกกระชับผิวระยะยาว ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน กรดไฮยาลูรอน และอิลาสติน ได้มากกว่าการ ร้อยไหมแบบปกติ แถมยังช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นอีกด้วยค่ะ และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดหลังจาก ทำผ่านไปแล้ว 1-2 เดือน โดยระยะเวลาคงอยู่ของผลลัพธ์การร้อยไหมอิตาลีจะคงอยู่มากกว่า 1 ปี

Italiany Thread Lift ไหมอีตาลีแตกต่างจากไหมประเภทอื่นอย่างไรทำไมถึงเป็นไหมที่พรีเมียมที่สุดในขณะนี้

  1. ร้อยไหมแค่ข้างละเส้น เจ็บน้อย ยกนานเนื่องจากไหมออกแบบให้ร้อยเพียงข้างละเส้นเท่านั้น ดังนั้นความเจ็บและโอกาสที่จะเกิดอาการช้ำเขียวก็จะน้อยกว่าไหมเข็มคมก้างปลาที่ร้อยหลายๆเส้น
  2. ไหมที่ยืดหยุ่นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่าไหมอื่นๆ ในท้องตลาดพราะร้อยไหมอิตาลีมีความแตกต่างในเรื่องของไหมที่ใช้วัสดุพิเศษ คือ เป็น PCL และ PLLA ผสมกัน ซึ่ง PCL จะเด่นในเรื่องอยู่ได้นาน 18-24 เดือน ซึ่งสูงสุดในไหมละลาย ยกกระชับ และข้อดีอีกข้อของ PCL คือมีความยืดหยุ่นดี
  3. ร้อยไหมอิตาลี ยกนาน 18 -24 เดือน หลังร้อยยกเห็นผลทันที และที่สำคัญเมื่อเวลา ผ่านไปยกได้ดีขึ้น ซึ่งแตกต่างจาก ไหมทั่วไปที่จะยกดีมากสุดในช่วงแรกเท่านั้น เพราะไหมอิตาลีมีการ ออกแบบของเหงี่ยงเป็นลักษณะหันเข้าหากัน คือเป็น Bidirectional Convergent Barb ซึ่งเมื่ออยู่ใน ใบหน้าของเรา จะสามารถยึดติดกับผิวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

     4.เทคนิคการร้อยไหมอิตาลีแบบมี Anchoring Point เนื่องจากไหมอิตาลี ออกแบบมาในรูปแบบ ของ Double Needle คือมีเข็มอยู่ในแต่ละด้านของปลายไหม ทำให้สามารถร้อยได้ในทิศทาง ที่ต้องการได้สะดวก และที่สำคัญคือ เทคนิคการร้อยที่ไปยึดกับบริเวณเส้นเอ็นยึดผิว ซึ่งแตกต่าง จากไหมก้างปลา แบบอื่นๆจึงทำให้ยึดติดกับผิวได้ดีและนานกว่า

สนใจติดต่อสอบถาม